สารบัญ
ค่า pH ปัสสาวะแมวปกติและดีที่สุด ควรอยู่ที่เท่าไหร่?
การตรวจความเป็นกรด-ด่าง ค่า pH ปัสสาวะแมว สามารถช่วยให้ Pet Parent ติดตามสุขภาพของพวกเค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ เช่น นิ่วประเภท Calcium oxalate, Struvite, Ammonium urate, Cystine การสังเกตพฤติกรรมการดื่มน้ำ การเข้าห้องน้ำ ความถี่และปริมาณปัสสาวะ รวมถึงการตรวจดูลักษณะทรายแมวเป็นวิธีง่ายๆ ในการเฝ้าระวังสุขภาพดังกล่าว นอกจากนี้ การบันทึกพฤติกรรมรายวันของแมว เช่น ความอยากอาหาร การเล่น และความกระตือรือร้น ก็ช่วยให้สามารถติดตามความผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ
ค่า pH ปกติ : ช่วงที่เหมาะสมที่สุด
โดยทั่วไป จะมีความเป็นกรดเล็กน้อย ราว 6.0–6.5 ซึ่งเหมาะสมกับสุขภาพของแมวตามปกติ
ใช้ทรายแมว ZeoPaw จะช่วย Pet Parent ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของปัสสาวะ หากพบทรายไม่จับตัวเป็นก้อน ถือเป็นสัญญาณให้เราควรดูพฤติกรรมของพวกเค้ามากขึ้น เช่น แมวกินน้ำน้อย เพราะน้ำไม่สะอาดเพียงพอหรือไม่ เป็นต้น
ข้อมูลอ้างอิง: PetMD - Cat Urinary Health
สัญญาณค่าผิดปกติ : จุดสังเกตุ
ค่าต่ำกว่า 6.0 อาจบ่งชี้ว่า เป็นกรดมากเกินไป เสี่ยงเป็นโรคนิ่ว Calcium oxalate
ค่ามากกว่า 7.0 แสดงว่าเป็นด่างเกินไป เสี่ยงเป็นโรคนิ่ว Struvite
ค่า pH ที่ต่ำกว่า 6.0 หรือสูงกว่า 7.0 ต่างก็สามารถเป็นปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคนิ่วแมวได้ทั้งคู่
ดังนั้น ช่วงที่เหมาะสม (ประมาณ 6.0–6.5) และการดูแลสุขภาพโดยรวม เช่น การให้น้ำสะอาดและเพียงพอต่อร่างกาย การเลือกอาหารที่เหมาะสม และการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดนิ่วและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้
สังเกตพฤติกรรมการดื่มน้ำและการเข้าห้องน้ำ รวมถึงลักษณะทรายแมวเพื่อปรับการดูแลสุขภาพของเค้าได้เป็นอย่างดี
ข้อมูลเพิ่มเติม: VCA Hospitals - Cat Urinary Tract Health
การดูแลสุขภาพแมว : เคล็ดลับและวิธีดูแลระบบทางเดินปัสสาวะ
เรื่องดังกล่าว ไม่ใช่แค่การให้อาหารหรือที่นอนอบอุ่นเท่านั้น แต่รวมถึงการสังเกตพฤติกรรมและสุขภาพในชีวิตประจำวันอย่างใกล้ชิด Pet Parent ควรให้แมวได้ดื่มน้ำสะอาดและมีอาหารที่เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยรักษาสมดุลในระบบทางเดินปัสสาวะและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ นอกจากนี้ การใช้ ทรายแมว ZeoPaw ยังเป็นตัวช่วยที่ดีในการสังเกตสุขภาพปัสสาวะของน้องแมวได้ เพราะหากแมวมีพฤติกรรม ดื่มน้ำน้อย หรือไม่เพียงพอต่อร่างกาย "ทรายจะไม่จับตัวเป็นก้อนตามปกติ" ซึ่งถือเป็นสัญญาณเตือนที่บอกให้ Pet Parent ใส่ใจและสามารถปรับพฤติกรรมหรือพาไปพบสัตวแพทย์ได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ การติดตามน้ำหนักตัวของแมวและพฤติกรรมทั่วไป เช่น ความอยากอาหาร การเล่น หรือความกระตือรือร้น ก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงอย่างผิดปกติ อาจสะท้อนถึงความผิดปกติของสุขภาพได้เช่นกัน การดูแลอย่างต่อเนื่องและการตรวจสุขภาพประจำปี จะช่วยให้แมวมีชีวิตที่แข็งแรง มีความสุข และอยู่เป็นเพื่อนที่ดีของคุณไปได้นานๆ
การดูแลสุขภาพแมวอย่างสม่ำเสมอควบคู่กับการสังเกตค่า pH จะช่วยให้ Pet Parent ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และลดความเสี่ยงในการเกิดโรคนิ่วแมว
